ทำไม แบตเสื่อมเร็ว เกิดจากอะไรกันแน่

ทำไม? แบตเสื่อมเร็ว เกิดจากอะไรกันแน่!

แบตเตอรี่รถยนต์ หัวใจสำคัญในการจ่ายไฟให้กับรถยนต์ และเป็นตัวช่วยให้รถยนต์ทำงานอีกด้วย ถ้าแบตเสื่อม ก็อาจทำให้รถสตาร์ทไม่ติด หรืออาจจะติดแต่ระบบไฟไม่เพียงพอ ส่งผลให้รถทำงานได้ไม่เต็มที่และอุปกรณ์ที่ไฟไปเลี้ยงไม่เพียงพออาจจะเสื่อมเร็วตามไปด้วย ซึ่งโดยปกติแล้วแบตเตอรี่รถยนต์จะมีอายุการใช้งานอยู่ประมาณ 2 – 3 ปี ถึงจะเสื่อมสภาพตามระยะเวลาการใช้งาน แต่ถ้า แบตเสื่อมเร็ว มีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง

อาการแบบไหนบ้างที่แสดงว่าแบตเสื่อม

  • รถสตาร์ทติดยาก เนื่องจากแบตเตอรี่กักเก็บไฟไม่เพียงพอ
  • ระบบไฟสว่างน้อยลง อุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องใช้ไฟฟ้าหล่อเลี้ยง ทำงานได้ไม่เต็มที่เหมือนปกติ
  • เช็คน้ำกลั่นแล้วน้ำกลั่นแห้งไวกว่าปกติ
  • แบตเตอรี่มีรูปทรงบวมขึ้น

แบตเสื่อมเร็ว เกิดจาก

  • ระบบไดชาร์จมีปัญหา โดยปกติเมื่อติดเครื่อง ไฟจะชาร์จกลับไปที่แบตเตอรี่ แต่ถ้าหากไดชาร์จมีปัญหาไฟจะไม่กลับเข้าไปที่แบตเตอรี่นั่นเอง พอไฟถูกใช้ไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้ชาร์จ ก็ทำให้รถสตาร์ทเครื่องไม่ติดในครั้งต่อไป ควรซ่อมหรือเปลี่ยนไดชาร์จ
  • สายพานหลวม ทำให้ส่งแรงปั่นกระแสไฟฟ้าได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
  • รถไม่ได้ใช้งานเป็นระยะเวลานาน ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้แบตเสื่อมได้เร็วเช่นกัน อย่างน้อยควรสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้ วันเว้นวันสัก 5 นาทีก็เพียงพอแล้ว
  • ขั้วของแบตเตอรี่เสียหาย ไม่สามารถชาร์จไฟกลับเข้าไปได้ ถ้าเป็นแบบนี้ต้องเปลี่ยนแบตเท่านั้น
  • ไฟรั่ว อาจจะเกิดขึ้นได้กับการตัดต่อสายไฟ อย่างเช่น ทำเครื่องเสียงหรืออะไรที่ต่อกับไฟของรถยนต์ ต้องให้ร้านหาจุดที่รั่ว แล้วทำการแก้ไขเก็บสายให้เรียบร้อย
  • ขั้วแบตหลวม หรือหลุดออกมา ทำให้แบตเตอรี่ทำงานไม่ได้
  • ในน้ำกลั่นมีสิ่งสกปรกปนเปื้อนอยู่
  • รถอยู่ในอุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นมากเกินไป ก็มีส่วนทำให้ แบตเสื่อมเร็ว
  • ใช้งานรถหนักแบบไม่พัก 12 ชม. ต่อวันเป็นระยะเวลานานๆ ถ้าเลี่ยงการเดินทางไม่ได้จริงๆ ก็ควรจอดพักดับเครื่องสักเล็กน้อย เป็นการพักทั้งรถทั้งคนไปในตัว
  • สตาร์ทรถจอดทิ้งไว้เป็นเวลานาน ทำให้แบตเตอรี่ใช้งานหนัก
  • มักลืมเปิดไฟทิ้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นไฟส่องสว่าง ไฟตารถยนต์ หรือบางทีปิดประตูรถไม่สนิท ทำให้ไฟที่ส่องสว่างในรถติดอยู่ตลอด

ไม่อยากให้แบตเสื่อมเร็ว ต้องตรวจเช็คอย่างไร

  • หมั่นตรวจเช็คน้ำกลั่นเป็นประจำทุกเดือน หากน้ำกลั่นลดให้เติมอยู่ระดับที่พอดี
  • ไม่ควรจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน หากไม่ได้ใช้งานควรหาเวลาขับอย่างน้อย 30 นาที/สัปดาห์
  • หมั่นเช็ดทำความสะอาดขั้วแบตรถยนต์ ไม่ให้ฝุ่นเกาะหรือเกิดคราบเกลือ
  • หากเป็นไปได้ควรนำรถไปเข้าศูนย์บริการตรวจเช็คแบตเตอรี่ ทุก 10,000 กิโลเมตร
  • เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ทุก 40,000 กิโลเมตร หรือไม่เกิน 2-3 ปี

ถ้าแบตเตอรี่เสื่อมแล้ว สิ่งที่จำเป็นต้องทำคือ ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ และหลังจากเปลี่ยนแบตใหม่แล้วก็อย่าลืมดูแลรถให้ดี อะไรที่เป็นสาเหตุทำให้แบตเสื่อมก็ต้องหมั่นดูแลป้องกัน เพื่อให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน

สนใจช้อปผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องยูคอน ได้ที่