ของเหลวในรถยนต์ มีส่วนสำคัญในการช่วยให้รถยนต์ขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งช่วยหล่อลื่น ปกป้อง ดูแลรักษา แล้วแต่ว่าของเหลวนั้นทำหน้าที่อะไร แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงก็คือการหมั่นตรวจเช็คของเหลวในรถยนต์อยู่เสมอ หากลดลงก็เติมให้พอดี และเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนก็ควรต้องเปลี่ยน ซึ่งสิ่งสำคัญหลักๆ ประกอบด้วย 4 สิ่งนี้
ของเหลวในรถยนต์ น้ำยาหล่อเย็น
น้ำยาหล่อเย็นหรือที่เรามักเรียกกันว่าน้ำยาหม้อน้ำ เป็นตัวช่วยสำคัญในการควบคุมอุณหภูมิรถไม่ให้สูงจนเกินไป ซึ่งหลายคนมองว่าไม่จำเป็น แค่น้ำธรรมดาก็เพียงพอ แต่น้ำยาหล่อเย็นมีประโยชน์มากกว่าที่คิด ทั้งช่วยระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ไม่ร้อนเกินไป, ป้องกันการเกิดสนิม ไปอุดตันส่วนต่างๆ ภายในเครื่องยนต์, ช่วยยืดอายุการใช้งานของหม้อน้ำและเครื่องยนต์ อีกทั้งสีเขียวสดใสแบบนี้ยังเป็นตัวช่วยให้เรามองเห็นได้ชัดเจนหากเกิดรูรั่ว น้ำยาหล่อเย็นมีทั้งแบบสำเร็จรูปพร้อมใช้งานได้เลย และแบบหัวเชื้อที่ต้องเอามาผสมเอง ซึ่งกำหนดการเปลี่ยนถ่ายส่วนใหญ่จะอยู่ที่ ทุกๆ 40,000 กิโลเมตร หรือไม่เกิน 2 ปี
น้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่อง เป็นอะไรที่เครื่องยนต์ขาดไม่ได้แน่ๆ เพราะเป็นส่วนที่จะช่วยดูแลเครื่องยนต์ไม่ให้สึกหรอ และยังทำงานได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้เราก็ควรเลือกน้ำมันเครื่องให้เหมาะกับการใช้งานของรถที่มีความแตกต่างกันไป เช่น ชนิดของรถ รถเก๋ง กระบะ รถบรรทุก หรือดูว่าเป็นรถเก่า รถใหม่ ใช้เบอร์อะไร ซึ่งการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแต่ละครั้งปกติจะมีใบจดเลขไมล์ติดรถไว้ให้เปลี่ยนเมื่อถึงกำหนด เช่น 5,000 กม. 10,000 กม. หรือถ้าเลขไมล์ไม่ถึงก็ดูช่วงเวลานับตั้งแต่วันเริ่มเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เช่น 4 เดือน 6 เดือน 9 เดือน เป็นต้น
น้ำมันเกียร์
น้ำมันเกียร์ หลายคนอาจไม่ทันนึกถึง แต่ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะน้ำมันเกียร์จะมีส่วนช่วยลดแรงเสียดทาน ตอนที่เราใช้เกียร์ เข้าเกียร์ได้ลื่นไหลไม่มีกระตุก และยังป้องกันการสึกหรอของระบบเกียร์ ซึ่งถ้าเป็นรถเกียร์ธรรมดา ควรเปลี่ยนปีละครั้ง หรือรถใครใช้งานตลอดเวลาก็เปลี่ยนเร็วกว่านี้ ส่วนเกียร์ออโต้ ส่วนใหญ่จะมีระยะเปลี่ยนถ่าย 40,000 กม. แต่ถ้าเราใช้งานตลอดควรเปลี่ยนถ่ายที่ระยะ 20,000 กม.
น้ำมันเบรก
รถวิ่งก็ต้องมีเบรก เพราะขืนเบรกไม่ดีขึ้นมาอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งสิ่งสำคัญสำหรับเบรกรถยนต์ก็คือ น้ำมันเบรก ที่ช่วยส่งแรงดันจากปั้มเบรก ให้ไปกดผ้าเบรกลงบนจานเบรก ให้เกิดการเสียดสีจนรถหยุด ถ้าไม่มีน้ำมันเบรกจะทำให้มีการสึกหรอ เบรกไม่อยู่ เบรกลึก เบรกแตกได้ ซึ่งควรมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกทุกๆ 40,000 กิโลเมตร หรือ ไม่เกิน 1 ปี
นี่คือของเหลวในรถยนต์ที่สำคัญสำหรับรถยนต์และต้องหมั่นดูแลเปลี่ยนถ่าย หมั่นดูแลรถคุณให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์อยู่สม่ำเสมอ รถจะได้อยู่คู่กับเราไปนานๆ