วิธีขจัดกลิ่นเหม็นอับ ในรถง่ายๆด้วยตัวเอง การดูแลรถยนต์จะต้องดูแลทั้งภายนอกและภายใน ปัญหาหนึ่งที่กวนใจผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่ใช้รถอยู่เป็นประจำ นั่นก็คือ เรื่องของกลิ่นเหม็นอับภายในรถ ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ น้องยูคอนจึงมีวิธีแก้กลิ่นเหม็นอับในรถง่ายๆ ด้วยตัวเองมาฝาก แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากอีกด้วย
กลิ่นเหม็นอับในรถเกิดขึ้นได้จากอะไร?
- มีความชื้นสะสมอยู่ในคอยล์เย็น หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้เกิดเชื้อรา และทำให้เกิดกลิ่นอับ
- กรองแอร์สกปรก ช่องระบายอากาศอุดตัน รวมถึงมีความชื้น ทำให้การเกิดการสะสม และเกิดกลิ่นเหม็นอับ
- การชอบนำอาหารเครื่องดื่มรับประทานในรถ โดยเฉพาะอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น ทุเรียน ส้มตำ เป็นต้น หรือนำของสดไว้ในรถ ก็มีส่วนเช่นกัน
วิธีขจัดกลิ่นเหม็นอับ ในรถง่ายๆด้วยตัวเอง มีอะไรบ้าง?
- ขจัดกลิ่นจากต้นตอก่อน
หากที่มาของกลิ่นเหม็นยังอยู่ในรถ เช่น ถุงขยะ กล่องข้าว เศษข้าวที่ทานเหลือ ควรนำเอาไปทิ้ง และทำความสะอาดบริเวณในนั้น ซึ่งจุดที่มักเป็นต้นตอของกลิ่นเหม็นอับภายในรถ เช่น คอนโซลหน้า เบาะหลัง พื้นพรมรถ และพรมรองเท้า ท่อระบายน้ำในเครื่องยนต์อุดตัน ตัวกรองเครื่องปรับอากาศสกปรก หรือแม้แต่อาหารสด ที่ตกหล่นอยู่ภายในรถ ถ้าเจอแล้วก็ควรเก็บกวาดให้สะอาด กลิ่นจะลดลงได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
- ดูดฝุ่น ทำความสะอาดผ้ายาง
กลิ่นเหม็นอับในรถ มักเกิดจากความชื้นและความสกปรก การทำความสะอาดจึงเป็นวิธีที่ขจัดกลิ่นได้ เริ่มจากการดูดฝุ่นตามซอกมุมต่างๆ และพื้นรถ เอาผ้ายางที่รองเท้าออกมา ทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และตากแดดให้แห้ง ก่อนที่จะเอามาวางในรถเช่นเดิม สามารถใช้น้ำยาฆ่าเชื้อชุบน้ำบิดหมาด เช็ดพื้นผิวคอนโซล พวงมาลัย กระปุกเกียร์ รวมถึงด้ามจับเบรคมือ นอกจากจะช่วยลดกลิ่นแล้ว ยังช่วยลดเชื้อโรคต่างๆได้อีกด้วย
- ดูแลทำความสะอาดเบาะรถ
ตัวเบาะรถ เป็นส่วนที่มีพื้นกว้างที่สุดในตัวรถ หากเกิดกลิ่นเหม็นอับที่เบาะรถ แล้วไม่มีการทำความสะอาด เราจะได้กลิ่นเหล่านั้นอยู่ตลอดเวลา ไม่จางหาย เรามาดูเพิ่มเติมกันว่า เบาะรถแต่ละชนิด มีวิธีดูแลอย่างไร?
เบาะผ้า
ตัวเบาะผ้า จะดูดซับกลิ่นและฝุ่นเป็นอย่างดี ซึมซับน้ำได้ง่าย สามารถทำความสะอาดได้ ด้วยการใช้น้ำสบู่อ่อนขัดเช็ดเบาๆ เพราะหากเช็ดแรงเกินไปเบาะจะเป็นขุยได้ และถ้าใช้น้ำสบู่ที่แรงเกินไป เบาะอาจเกิดรอยด่างได้ นอกจากนี้ควรปัดฝุ่นทุกวัน หรือดูดฝุ่นอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง
เบาะหนังเทียม
เบาะหนังเทียม จะง่ายต่อการดูแล เพราะตัวเบาะจะไม่ซับน้ำเหมือนเบาะผ้า โดยสามารถใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดหรือน้ำผสมสบู่เล็กน้อย บิดให้หมาด เช็ดทำความสะอาด จากนั้นใช้ผ้าแห้งสะอาดเช็ดอีกที
เบาะหนังแท้
เป็นที่นิยมใช้กันมาก เพราะมีความนุ่มสบาย มีสี ลวดลายสวยเป็นธรรมชาติ แต่หากหนังแท้มีความชื้นจะจัดการได้ยาก อาจใช้วิธีเคลือบเบาะเดือนละ 1-2 ครั้ง เพื่อช่วยป้องกันการเกิดคราบเวลาน้ำหกใส่ และควรหมั่นเช็ดด้วยผ้าแห้ง
- เปิดพัดลมแอร์เพื่อปรับอากาศ
แนะนำกดปิดปุุ่ม A/C ในรถ ก่อนดับเครื่องยนต์ ให้เหลือแต่แรงพัดลมเป่า เป็นเวลา 2- 3 นาที เพื่อไล่ความชื้นในแอร์ ที่สะสมมาจากการทำความเย็นตลอดเป็นเวลานาน
- แสงแดดช่วยฆ่าเชื้อ
ความร้อนจากแดด สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ดี สามารถจอดรถเปิดประตูหน้าต่างกลางแดดสักพัก เรื่องกลิ่นอับจะดีขึ้น แต่ถ้าเป็นเบาะหนัง ไม่ควรจอดตากแดดนานเกินไป เพราะจะทำให้เบาะหนังแข็งและแตกได้
- ใช้น้ำหอมปรับอากาศ
เป็นวิธีแรกๆ ที่หลายคนมักเลือกใช้ เพราะง่ายและสะดวกมากที่สุด มีหลากหลายกลิ่นให้เลือกใช้ แต่ต้องเลือกให้ดี เพราะกลิ่นของน้ำหอมบางชนิด อาจผสมเข้ากับกลิ่นอับจนทำให้กลิ่นที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม หรือบางกลิ่นอาจทำให้เกิดวิงเวียนศีรษะเมื่อสูดดม
- ถ่านไม้
เพียงแค่คุณนำถ่านไม้ก้อนเล็กๆห่อใส่ถุงผ้า นำไปวางไว้ตามมุมต่างๆ หรือห้อยภายในรถ ประมาณ 2-3 วัน กลิ่นอับในรถจะค่อยๆหายไป
- น้ำส้มสายชู
ใช้น้ำส้มสายชู 2-4 ช้อนโต๊ะ เทใส่ถ้วยตั้งทิ้งไว้ในรถประมาณ 1-2 ชม. ก็จะสามารถช่วยดูดกลิ่นอับชื้นภายในรถได้และสามารถนำไปขจัดคราบเปื้อนที่เบาะหนังได้ เพียงแค่ใช้ผ้าขนหนูชุบพอหมาดเช็ดไปมา
- เบกกิ้งโซดา
ใส่เบกกิ้งโซดาในภาชนะ ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ตั้งทิ้งไว้ภายในรถ จะสามารถช่วยลดกลิ่นเหม็นอับ และช่วยดูดกลิ่นบุหรี่ให้หายไปได้ด้วย เบกกิ้งโซดาจะอยู่ได้นาน 6 เดือน-1 ปี
- สมุนไพรไทย
มีสมุนไพรไทยหลายชนิดที่สามารถนำมาใช้ได้ เช่น ใบมะกรูด ใบเตย ดอกมะลิ ช่วลดกลิ่นอับภายในรถได้ เพราะเป็นสารหอมระเหยตามธรรมชาติ ปลอดภัยต่อสุขภาพ และช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเมื่อสูดดมเข้าไป
- ชากาแฟก็ช่วยได้
สามารถใช้ผงกากกาแฟตากแห้งห่อด้วยผ้า หรืออาจใช้ถุงชา นำไปวางตามจุดต่างๆภายในรถยนต์ ก็สามารถช่วยลดกลิ่นอับได้เช่นกัน