เราน่าจะรู้กันดีแล้วว่ารถยนต์เมื่อถึงระยะเวลาก็ต้องมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง แต่อาจจะมองข้ามสิ่งสำคัญส่วนอื่นๆ ด้วยหรือเปล่า ซึ่งการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแต่ละครั้งควรต้องเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องไปพร้อมกันด้วย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีกว่า
กรองน้ำมันเครื่อง มีประโยชน์อย่างไร
กรองน้ำมันเครื่อง มีหน้าที่ช่วยกรองเอาสิ่งสกปรก เขม่าควัน และเศษโลหะต่างๆ ออกจากน้ำมันเครื่อง เพื่อให้ได้น้ำมันเครื่องที่สะอาด ได้น้ำมันเครื่องที่ไม่มีสิ่งเจือปนกลับวนไปใช้ใหม่อีกครั้ง ซึ่งถ้าหากกรองน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ หรือใช้ไปนานๆ จนกรองอุดตันไม่สามารถกรองอะไรต่อได้แล้ว ก็ไม่สามารถดักจับสิ่งสกปรกเหล่านี้ได้หมด เราก็จะได้น้ำมันเครื่องที่ไม่สะอาดหมุนวนใช้ไปเรื่อยๆ ยิ่งถ้ามีเศษโลหะผสมอยู่ด้วย จะยิ่งเกิดการเสียดสี ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ก็จะสึกหรอเร็วกว่าปกติ
โดยปกติเค้าเปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่องกันเมื่อไหร่
- ดูตามน้ำมันเครื่องที่ใช้ ถ้าเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ อายุเปลี่ยนถ่ายอยู่ที่ 10,000 กม. ก็เปลี่ยนกรองพร้อมกันเลย
- น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ เฉลี่ยการเปลี่ยนถ่าย 5,000-7,000 กม. จะเปลี่ยนกรองพร้อมกันทุกครั้งก็ได้ หรือไม่ก็เปลี่ยนกรองทุกๆ การถ่ายน้ำมันเครื่องสองครั้ง
- น้ำมันเครื่องเกรดธรรมดา เฉลี่ยการเปลี่ยนถ่าย 3,000-5,000 กม. สามารถเปลี่ยนกรองทุกๆ การถ่ายน้ำมันเครื่องสองครั้งได้
- กรณีใช้รถไม่มาก รถจอดทิ้งไว้ หรือไม่ค่อยได้ใช้รถในการเดินทางออกไปไหน อย่างน้อยควรเปลี่ยนปีละครั้ง
ทำไมจึงต้องเปลี่ยนกรองพร้อมกับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นกฏที่แน่นอนตายตัวว่าจะต้องเปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่องพร้อมกับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกครั้ง แต่เป็นสิ่งที่ควรจะเปลี่ยนพร้อมกันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีกว่า ลองคิดดูว่าน้ำมันเครื่องที่เปลี่ยนใหม่ สะอาดแบบไม่มีอะไรเจือปน แต่เมื่อผ่านกรองที่สกปรก อาจนำพาเอาเศษสิ่งสกปรกที่ติดอยู่หมุนวนกลับไปใช้อีก น้ำมันเครื่องใหม่ๆ ของเราก็จะเต็มไปด้วยเศษโลหะ เขม่าควัน ซึ่งมันไม่ควรเกิดขึ้น ดังนั้น ทางที่ดีที่สุด เราควรเปลี่ยนพร้อมกันไปเลย เพื่อเครื่องยนต์ที่สะอาดปลอดภัย และใช้ได้อีกยาวนาน