ขับรถเกียร์ออโต้ สะดวกสบายกว่าเกียร์ธรรมดาก็จริง แต่ก็มีการทำงานภายในที่ซับซ้อนกว่า โดยเฉพาะเวลาที่มีปัญหาขึ้นมาจะแก้ยากกว่า อย่างกรณีที่รถเกียร์ออโต้ เข้าเกียร์ไม่ได้ ก็จะไม่สามารถขับไปไหนต่อได้ หรือเข้าได้แค่บางเกียร์ ก็ทำให้รถมีปัญหาเช่นกัน แล้วแบบนี้ต้องทำยังไงดี
เข้าเกียร์ไม่ได้ ตรวจสอบระบบคลัทช์
เกียร์อัตโนมัติก็มีคลัทช์ เพียงแต่เราไม่ได้เหยียบคลัทช์เองเท่านั้น ซึ่งคลัทช์เป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ช่วยในการขับเคลื่อนให้รถขับต่อไปได้ หากระบบคลัทช์เสีย รถก็ขับไปต่อไม่ได้ แล้วจะทำให้ระบบเกียร์พังด้วย สามารถตรวจสอบระบบคลัทช์ด้วยตัวเองได้ดังนี้
- สตาร์ทรถ ในตำแหน่งเกียร์ P หรือ N
- เหยียบเบรค ด้วยเท้าซ้าย และดึงเบรคมือจนสุด
- ดึงคันเกียร์มาที่ R หรือ D4 (แนะนำเป็น D4 ดีกว่า)
- เหยียบคันเร่งด้วยเท้าขวาให้เต็มที่ ห้ามปล่อยเบรคเท้าซ้ายเด็ดขาด! มิเช่นนั้นรถอาจพุ่งชนได้
- ถ้าทำแล้วเครื่องดับทันทีแสดงว่าคลัทช์ดี
- ถ้าทำแล้วรอบตกแต่ไม่ดับทันที แสดงว่าคลัทช์หมดแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแล้ว
- อีกหนึ่งสาเหตุของคลัทช์ก็คือ ระยะแป้นคลัทช์ไม่เหมาะสม ต้องตรวจสอบน้ำมันคลัทช์ว่าอยู่ระดับต่ำหรือเปล่า หรือมีการรั่วซึมหรือเปล่า
เช็คน้ำมันเกียร์
หน้าที่หลักของน้ำมันเกียร์ คือการช่วยหล่อลื่นให้ระบบเกียร์ทำงานได้เต็มที่ ไม่มีการเสียดสีหรือเกิดแรงเสียดทาน หากรู้สึกว่าเข้าเกียร์ยาก น้ำมันเกียร์อาจมีปัญหา เช่น ระดับน้ำมันเกียร์ลดลง ทำให้หล่อลื่นได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ชิ้นส่วนภายในเกียร์ออโต้อาจมีการเสียดสีกัน ทำให้สึกหรอได้ ควรเติมน้ำมันเกียร์เข้าไปให้พอดี หรือหากน้ำมันเกียร์ใช้มานานจนเสื่อมสภาพ สมควรต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ใหม่
แก้ไขปัญหาท่อหายใจ
ภายในระบบเกียร์ มีท่อหายใจของห้องเกียร์ ซึ่งเป็นไปได้ว่าท่อตันจากการที่มีสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันอยู่ข้างใน จึงทำให้รถเข้าเกียร์ไม่ได้ ควรตรวจเช็คดูท่อหายใจว่ามีสิ่งสกปรกอุดตันหรือไม่ ถ้ามีก็เอาออกให้หมด เมื่อท่อหายใจโล่งแล้วก็จะสามารถเข้าเกียร์ได้ง่ายขึ้น
ตรวจสอบชุดเกียร์
หากตรวจเช็คเบื้องต้นด้วยตัวเองแล้วอาการยังไม่หาย คงต้องเอาไปเข้าศูนย์ หรือนำเข้าอู่ให้ช่างช่วยตรวจสอบชุดเกียร์ เพื่อเช็คดูชิ้นส่วนภายในว่ามีการชำรุดเสียหายหรือไม่ ถ้ามีชิ้นไหนเสียหายจะได้ซ่อมแซมได้ทัน แต่ทางที่ดีควรหมั่นสังเกตดูแลระบบเกียร์อย่าให้ถึงขึ้นต้องซ่อมเกียร์หรือเปลี่ยนชุดเกียร์ เพราะราคาที่จ่ายถือว่าสูงมาก