ช่วงเวลาแบบนี้มีการ work from home และกักตัวอยู่บ้านกันมากขึ้น รถที่เคยใช้งานอยู่ทุกวันก็จอดทิ้งไว้นาน บางคนไม่ได้ขับรถไปไหนมานานหลายเดือน แล้วถ้า รถจอดทิ้งไว้นานๆ แบบนี้ มีอะไรที่ควรต้องดูแลและตรวจเช็คกันบ้าง มาดูข้อที่ควรต้องปฏิบัติกันเถอะ
จอดรถในที่เหมาะสม
ถ้ารู้ตัวว่าจะต้องจอดรถไว้นานๆ ก็ควรหาที่จอดรถที่เหมาะสม บ้านใครมีโรงรถหรือที่จอดรถไว้ก็ไม่น่าห่วง แต่ถ้าใครไม่มีที่จอด ก็ต้องหาที่จอดดีๆ ไม่ควรอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่เพราะเสี่ยงต่อกิ่งไม้หล่นใส่ทำให้รถเสียหาย และอาจมีนกขี้ใส่ทำให้เลอะเทอะไปอีก ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานๆ ไม่ล้าง สีรถจะเสียหายได้ ทางที่ดีถ้าหาที่จอดไม่ได้จริงๆ ก็ต้องมีผ้าคลุมรถเอาไว้ก่อนเป็นการป้องกันได้ในระดับหนึ่ง
สตาร์ทรถบ้าง
รถยิ่งไม่ได้ใช้งานเลย เครื่องยนต์กลไกข้างในจะผุพังเอาได้ง่ายๆ ควรสตาร์ทรถบ้าง เป็นไปได้ก็สักสองสามวันครั้ง หรือสักอาทิตย์ละครั้งก็ยังดี เพื่อให้น้ำมันเครื่องได้หมุนวนอยู่ในระบบ เข้าไปเคลือบชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์เอาไว้ไม่ให้สึกหรอ อีกทั้งการสตาร์ทรถยังเป็นการช่วยกระตุ้นแบตเตอรี่ให้ได้ถูกใช้งาน ไม่อย่างนั้นแบตจะเสื่อมเร็ว
ทำความสะอาดรถบ้าง
ถึงจะจอดทิ้งไว้นานไม่ได้ใช้งาน แต่พวกเศษสิ่งสกปรก ฝุ่นผงต่างๆ ก็ย่อมมีอยู่เรื่อยๆ อย่างน้อยก็ควรเข้าไปดูดฝุ่นในรถ หรือล้างรถทำความสะอาดไม่ให้คราบสกปรกติดแน่น
ถอดแบตเตอรี่ออก
สำหรับใครที่รู้ตัวว่ายังไงก็จอดรถไว้ไม่ได้ใช้งานแน่ๆ แนะนำให้ถอดขั้วแบตเตอรี่ออกเลย จะเป็นการป้องกันไม่ให้แบตเสื่อมสภาพเร็ว แต่ถ้าเอามาใส่ใหม่อาจต้องเซ็ตวันที่หรืออะไรต่างๆ ใหม่ เพราะค่าจะถูกเซ็ตใหม่ จริงๆ แนะนำให้สตาร์ทรถบ่อยๆ ดีกว่าเอาแบตออก
ตรวจสอบลมยาง
ไม่ควรปล่อยให้ยางแบนเพราะยางอาจเสื่อมสภาพ ยิ่งถ้าลมยางแต่ละเส้นไม่เท่ากัน แล้วต้องแบกรับน้ำหนักรถไปด้านใดด้านหนึ่ง ยางจะเสื่อมสภาพจนผิดรูป เมื่อนำออกไปใช้งานอีกครั้งอาจทำให้ยางเสียหาย ถ้าไม่นำรถออกไปขับแล้วเติมลมข้างนอกบ้าน ก็ควรหาที่เติมลมเล็กๆ ติดบ้านไว้ และคอยเติมลมยางให้อยู่ในปริมาณปกติ ถ้าเป็นไปได้ควรให้ยางเคลื่อนที่บ้างโดยการขับรถเข้าๆ ออกๆ หรือวนใกล้ๆ บ้าน เพื่อไม่ให้ยางแข็งตัว
เช็ค พรบ. ต่อทะเบียนรถ
รถบางคันจอดทิ้งไว้นานจนลืม แต่อย่าลืมไปต่อทะเบียนรถให้ตรงตามเวลา เพราะยิ่งไปเดินเรื่องช้าก็จะเสียค่าปรับมากขึ้น และถ้าไม่ได้ต่อทะเบียนเกิน 3 ปี ถือว่าทะเบียนขาด ทีนี้ถ้าจะเอาไปใช้งานอีกทีต้องไปทำเรื่องขอทะเบียนใหม่ เสียเวลาเสียเงินมากขึ้นไปอีก
เปลี่ยนถ่ายของเหลวเมื่อถึงเวลา
อย่าคิดว่ารถที่จอดไว้ไม่ได้ใช้แล้วไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายของเหลวก็ได้ เพราะของเหลวในรถยนต์ย่อมเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ น้ำยาหล่อเย็น ฯลฯ ทั้งเศษฝุ่นผงหรือสิ่งสกปรกก็ยังมีหมุนเวียนอยู่ภายในระบบ ทางที่ดีต้องเช็คระยะเวลาว่าควรเปลี่ยนของเหลวเมื่อไหร่แล้วจัดการเปลี่ยนให้เรียบร้อย เพื่อให้รถยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ใช้งานได้ดี เมื่อถึงเวลาต้องนำรถไปใช้งานก็สามารถใช้ได้ทันที