แบตเตอรี่รถยนต์ สิ่งสำคัญที่ทำให้รถสตาร์ทติดและไปต่อได้ รวมถึงการจ่ายไฟไปยังส่วนต่างๆ ในรถยนต์ ซึ่งถ้าหากแบตเตอรี่เสื่อมก็จะเกิดปัญหากับเครื่องยนต์ รถสตาร์ทไม่ติด หรือไฟไปเลี้ยงไม่เพียงพอ ซึ่งหากพบว่าแบตเตอรี่เสื่อมก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ไม่อย่างงั้นจะเป็นผลเสียต่อรถยนต์อื่นๆ ตามมา วิธีสังเกตแบตเตอรี่เสื่อม วิธีง่ายๆ ที่ใครๆ ก็สามารถตรวจสอบได้
วิธีสังเกตแบตเตอรี่เสื่อม อะไรเป็นสาเหตุได้บ้าง?
- สำหรับแบตเตอรี่ธรรมดา น้ำกลั่นลดเร็วกว่าปกติ มีการเติมน้ำกลั่นบ่อยๆ
- ไฟหน้าไม่สว่าง อาจเกิดจากไฟไปเลี้ยงไม่เพียงพอ ถ้าขับรถตอนกลางคืนจะสังเกตได้ชัดเจนว่าไฟสว่างน้อยลง
- สตาร์ทรถติดยาก ต้องสตาร์ทหลายครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเช้า หรือรถที่จอดทิ้งไว้หลายวัน
- กระจกไฟฟ้าเริ่มทำงานช้าลง ขึ้นลงแบบอืดๆ
- ระบบไฟฟ้าอื่นๆ ในรถทำงานช้าลงหรือผิดปกติ ไฟส่องสว่างภายใน ไฟนาฬิกา ไฟเครื่องเสียงหรี่ลงกว่าเดิม ลองบีบแตรแล้วเสียงเบา
- แบตเตอรี่ใช้งานมานานมากกว่า 2 ปี ก็อาจถึงเวลาที่แบตเตอรี่เสื่อม
- รถมีการใช้งานมาก เช่น ถึง 20,000 กม. ก็อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้
- ไดสตาร์ทไม่ทำงาน
- ค่าไฟโวลต์ผิดปกติ ซึ่งโดยปกติค่าจะอยู่ที่ประมาณ 13.5-14.5 ถ้าลดลงไปกว่านี้แสดงว่าเก็บไฟไม่อยู่ แบตเริ่มเสื่อม
- แผ่นธาตุภายในมีการบวม
- น้ำกรดภายในลดลง แห้ง หรือมีปริมาณต่ำกว่าแผ่นธาต
ทุกชิ้นส่วนล้วนสำคัญ หมั่นสังเกตอาการรถยนต์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบแก้ไข