ระบบเบรคมีปัญหา สังเกตได้จาก 8 สิ่งนี้? ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ระบบเบรคของรถยนต์นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอันดับแรกๆ ที่ช่วยให้มีความปลอดภัยในการเดินทาง ช่วยหยุด ชะลอความเร็วของรถ และถือว่าเป็นชิ้นส่วนที่มีการงานมากอย่างต่อเนื่องในการขับขี่แต่ละครั้ง โดยเฉพาะเมื่อเจอสภาวะจราจรติดขัด ถ้าระบบเบรคมีปัญหาเราจะสามารถสังเกตได้จาก 8 สิ่งนี้
8 อาการของ ระบบเบรคมีปัญหา
- ไม่ได้ดึงเบรกมือ แต่มีไฟเตือนขึ้น
โดยปกติเมื่อดึงเบรคมือ หรือปลดเบรคมือลงไม่สุด จะมีสัญญาณไฟเตือนขึ้นบนหน้าปัด แต่ถ้าหากไฟเตือนแสดงขึ้นมาโดยที่ไม่มีการดึงเบรคมือ อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่า ระบบเบรค หรือ น้ำมันเบรคเริ่มมีปัญหา ลองสังเกตจากการเหยียบเบรค ว่ามีอาการผิดปกติอื่นๆเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะอาจเกิดจากผ้าเบรคสึกหรอ
- ขณะเบรคมีเสียงดัง
หากเหยียบเบรคแล้วมีเสียงดัง เหมือนโลหะเสียดสีกัน และเมื่อปล่อยเบรคเสียงเงียบลง นั่นอาจเป็นเพราะ จานเบรคเสื่อมสภาพ หรือ ผ้าเบรกหมด จนทำให้เกิดการเสียดสีกับจานเบรค แต่หากได้ยินเป็นเสียงบด อาจเป็นเพราะมีเศษฝุ่น เศษทรายเข้าไประหว่างผ้าเบรกกับจานเบรค หรือในชุดคาลิปเปอร์
- อาการเบรคสั่น
อาการเบรคสั่น จะรู้สึกได้เมื่อเหยียบเบรค บางครั้งอาจสั่นแรงจนรู้สึกสั่นที่พวงมาลัย หรือเหยียบเบรคแล้วรถสั่นไปทั้งคัน นั่นอาจมีสาเหตุมาจากจานเบรคคด บิดตัว โก่ง หรือเอียง ซึ่งมาจากการเหยียบเบรคอย่างรุนแรงเป็นประจำ หรือขับรถลุยน้ำทำให้จานเบรคที่มีความร้อนสูงสัมผัสกับน้ำจึงเกิดการบิดตัวได้ง่าย ทำให้ผ้าเบรคไม่สัมผัสกับจานเบรคได้เต็มที่ แนะนำให้เปลี่ยนจานเบรค หรือเจียรจานเบรคให้เสมอเท่ากัน
- เบรคแล้วรถปัด
ในกรณีที่เหยียบเบรคแล้วรถปัดไปด้านใดด้านหนึ่งนั้น เกิดมาจากสาเหตุหลายอย่าง เช่น ยางรถยนต์ ระบบเบรคหรือคาลิปเปอร์สึกหรอ ทำให้แรงเบรคของแต่ละล้อไม่เท่ากัน รถจึงเสียสมดุลได้ หรืออาจมีคราบน้ำมันหรือสารหล่อลื่นจากช่วงล่าง กระเด็นมาที่จานเบรก ทำให้เบรคลื่น ซึ่งหากรถปัดไปทางด้านใด แสดงว่าระบบเบรคของด้านตรงข้ามมีปัญหา เช่น รถปัดไปทางซ้าย ให้เช็กระบบเบรคที่อยู่ทางด้านขวา
- อาการเบรคจม
เมื่อเหยียบเบรคแล้วรู้สึกว่า แป้นเบรกจมลงลึกกว่าปกติ หรือขณะเหยียบเบรกค้างไว้ แป้นเบรกค่อยๆจมลง นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าระบบเบรกเริ่มมีปัญหา เพราะว่าแม่ปั๊มเบรคอาจสึกหรอหรือบวม ทำให้แรงดันเบรคลดลง ทำให้ต้องย้ำเบรคบ่อยๆ หรือต้องออกแรงเบรคมากขึ้น
- อาการเบรคแตก
อาการเบรคแตก หรือเบรคไม่อยู่ คือการที่เหยียบแป้นเบรคจนสุดแล้วแต่รถยังไม่หยุดเคลื่อนที่ นั่นอาจเป็นเพราะน้ำมันเบรครั่ว ท่อทางระบบเบรคแตก สายอ่อนเบรคแตก ลูกยางแม่ปั๊มเบรคหรือตัวแม่ปั๊มเบรกเสียหายจนน้ำมันเบรกรั่วไหลจนหมด หรือชิ้นส่วนระบบเบรคหลุดหลวม ซึ่งหากรถเบรคแตก พยายามบังคับรถอยู่ในเลนที่ปลอดภัย ชะลอความเร็ว ค่อยๆดึงเบรกมือขึ้นเป็นจังหวะ เพื่อช่วยลดความเร็ว (ห้ามดึงเบรกมือแรงเด็ดขาด เพราะจะทำให้รถหมุนและพลิกคว่ำได้)
- อาการเบรคติด
คือ อาการที่ปล่อยเบรคแล้ว แต่ยังรู้สึกว่าเบรครถยังทำงานอยู่ แสดงว่าลูกยางกันฝุ่นของแม่ปั๊มเบรคฉีกขาด ทำให้น้ำซึมเข้าไปในกระบอกเบรค ส่งผลให้ลูกสูบเบรคไม่สามารถเข้า-ออกได้ แนะนำควรรีบเช็คสภาพเบรกทันที
- เบรคมีกลิ่นไหม้
หากเบรคมีกลิ่นเหม็นไหม้ นั่นอาจเกิดจากการเหยียบเบรครุนแรงหลายๆครั้งอย่างต่อเนื่อง หรือเมื่อขับรถขึ้นเขา-ลงเขาแล้วต้องเหยียบเบรคบ่อยๆ ก็ทำให้เบรคเกิดความร้อนจัดจนผ้าเบรคไหม้ หรือการเหยียบเบรคแช่นานเกินไปก็มีผลเช่นกัน จนทำให้เบรคติดหรือเบรกค้าง ซึ่งหากมีควันออกมาจากล้อด้วย ก็อาจเป็นเพราะคาลิปเปอร์เบรกค้างอยู่ ทำให้ผ้าเบรคจับจานเบรกค้างนานเกินไปจนผ้าเบรคไหม้ หากเริ่มได้กลิ่นเบรคไหม้ ควรจอดเพื่อพักรถ จนกว่าเบรคจะเย็นลง หรือหากอยู่ในช่วงขึ้นเขาลงเขา แนะนำใช้เกียร์ต่ำเพื่อช่วยชะลอความเร็วหรือใช้ Engine Break จะดีกว่าการใช้เกียร์ปกติแล้วเหยียบเบรคบ่อยๆ