อาการรถ ที่ต้องเช็ค เพราะมักเสียบ่อยๆ

อาการรถ ที่ต้องเช็ค เพราะมักเสียบ่อยๆ

คนมีรถต้องรู้อะไรบ้าง เกี่ยวกับ อาการรถ ที่มักจะเกิดขึ้นกับผู้ใช้รถโดยทั่วไป ซึ่งสำหรับคนที่ต้องขับรถใช้งานอยู่ตลอดเวลา จำเป็นต้องเช็คความผิดปกติของรถ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้รถมีอาการหนักมากกว่าเดิมและจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที ส่วนอาการรถที่มักเสียบ่อยๆ มีดังต่อไปนี้

อาการรถ สตาร์ทติดยาก

สำหรับรถเก่า ที่ใช้งานมานานหลายปี มักจะเจอกับปัญหา รถสตาร์ทไม่ติดหรือสตาร์ทติดยาก ซึ่งอาการแบบนี้ ข้อสันนิษฐานแรกก็คือ แบตเตอรี่ ซึ่งอาจเกิดจากแบตเตอรี่เสื่อม หรือแบตหมด โดยปกติแล้วแบตเตอรี่รถยนต์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 1 – 3 ปี ซึ่งอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ แต่ถ้าแบตก็เพิ่งเปลี่ยนได้ไม่นาน อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ไดชาร์จเสีย หรือระบบการจ่ายเชื้อเพลิงผิดปกติ แต่เบื้องต้นให้ตรวจเช็คแบตเตอรี่ก่อน หากยังไม่หายค่อยเช็คจุดอื่นๆ

เครื่องยนต์สั่นผิดปกติ

อาการเครื่องยนต์สั่น สำหรับคนที่ขับรถอยู่เป็นประจำจะสามารถรู้สึกได้ถึงความสั่นที่ผิดปกติ ซึ่งอาจมาเป็นอาการสั่น หรือมาพร้อมเสียงดังผิดปกติร่วมด้วย หากรู้สึกว่าเครื่องยนต์สั่นผิดปกติ เป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากยางรองแท่นเครื่องเสื่อม สามารถเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ก็จะไม่สั่น แต่ถ้าไม่ใช่จุดนี้ เช่น มีอาการสั่นจนเครื่องยนต์ดับ อาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของเครื่องยนต์ และมีความเป็นไปได้หลายสาเหตุ ทางที่ดีแนะนำให้เข้าอู่เพื่อตรวจหาสาเหตุแล้วแก้ไขโดยเร็ว เพราะไม่อย่างนั้น ปล่อยไว้นานๆ เครื่องจะพังมากกว่าเดิม

มีน้ำมันหยดใต้ท้องรถ

จอดรถทิ้งไว้ พอขับออกไปมองเห็นว่ามีรอยคราบน้ำหรือน้ำมันหยดอยู่ใต้ท้องรถ ซึ่งจำเป็นต้องตรวจสอบดูว่า หยดน้ำหรือน้ำมันที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นจากจุดไหนกันแน่ หากดูแล้วเป็นน้ำ ก็อาจเป็น น้ำยาแอร์ น้ำยาหล่อเย็น ถ้าเป็นคราบน้ำมัน ก็อาจจะเป็น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ เป็นต้น ซึ่งหากเราแยกประเภทน้ำได้แล้ว ก็ต้องมาเช็คดูจุดที่คาดว่าจะทำให้เกิดรอยรั่วขึ้น เช่น เช็คระดับน้ำในหม้อน้ำว่าลดลงหรือไม่ ถึงก้านวัดน้ำมันเครื่องขึ้นมาดูว่ายังอยู่ในระดับปกติหรือลดลงไป หากเติมเข้าไปใหม่แล้วยังลดอีก ก็น่าจะมีปัญหาที่จุดนั้น และควรรีบนำรถไปเช็คและซ่อมแซมให้เรียบร้อย

ไฟแจ้งเตือนที่หน้าปัด

บนหน้าปัดรถยนต์มีไอคอนที่แสดงถึงการทำงานของรถยนต์อยู่มากมาย ซึ่งรถแต่ละรุ่นอาจมีการจัดวางสัญลักษณ์เหล่านั้นต่างกันออกไป แต่ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ รถทุกคันต้องมีการแจ้งเตือนไฟโชว์เมื่อมีอาการผิดปกติเหมือนๆ กัน และส่วนใหญ่เราก็จะดูแค่ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ความเร็วรถ รอบไมล์ เป็นต้น ซึ่งมักไม่ค่อยสังเกตถึงไฟโชว์ที่เป็นสัญลักษณ์อื่นๆ รวมไปถึงไฟโชว์สำคัญที่แสดงสถานะความผิดปกติของรถยนต์ เช่น ไฟแบต ไฟเครื่องยนต์ ไฟแจ้งเตือนความร้อนขึ้น ฯลฯ ดังนั้น ควรสังเกตที่หน้าปัดรถด้วยว่ามีไฟอะไรผิดปกติขึ้นโชว์หรือเปล่า จะได้รู้ถึงสาเหตุและรีบแก้ไขทัน

ช่วงล่างมีอาการผิดปกติ

ระบบช่วงล่างสำคัญมาก เพราะถ้าหากช่วงล่างไม่ดี อาจส่งผลถึงความปลอดภัยในการขับขี่ได้ ไม่ว่าจะเป็น โช้ค ลูกหมาก ปีกนก ลูกปืน หากมีอะไรผิดปกติ อาจทำให้รถรับน้ำหนักได้ไม่ดี หรือรถเสียสมดุล เสียการทรงตัว เช่น รถที่โช้คเสื่อมสภาพ ทำให้โช้คนิ่ม รับน้ำหนักได้ไม่ดี ดังที่เราจะเห็นรถบางคันที่บรรทุกมาหนักๆ แล้วรถเด้งขึ้นเด้งลง จำเป็นต้องเปลี่ยนโช้คใหม่ รวมไปถึงการขับขี่ถ้าเสียการทรงตัวเช่น รถกินซ้ายกินขวามากเกินไป อาจต้องตั้งศูนย์ถ่วงล้อใหม่ หรืออาจมีอาการอื่นๆ ในระบบช่วงล่าง ซึ่งต้องให้ช่างช่วยเช็ค

เบรคแล้วมีเสียงดัง

อาการที่เวลารถเบรคแล้วมีเสียงดัง เป็นไปได้ว่าผ้าเบรกหมด ทำให้เวลาเบรกตัวเบรคจะไปเสียดสีมากขึ้นเพราะผ้าเบรคบางลงจึงทำให้เกิดเสียงดัง ควรต้องเปลี่ยนผ้าเบรคใหม่ อย่ารอใช้จนผ้าเบรกหมดเพราะจะทำให้อะไหล่ชิ้นส่วนอื่นๆ โดนเสียดสีจนเสื่อมสภาพไปด้วย หากยังมีเสียงดังอยู่ อาจมีอาการที่เกิดจากชิ้นส่วนอื่นๆ ที่ไม่ใช่ผ้าเบรก ต้องลองเช็คช่วงล่างเพื่อหาสาเหตุ

นี่เป็นเพียงอาการเบื้องต้นที่มักพบบ่อยๆ ซึ่งเชื่อว่าหากใช้รถไปนานๆ ต้องมีใครเจออาการใดอาการหนึ่งกันบ้าง ลองสังเกตรถตัวเองกันให้ดี และหากบำรุงรักษาดีๆ อาการเสื่อมสภาพต่างๆ ของรถก็จะยืดระยะเวลาออกไปได้นานขึ้น และที่สำคัญ การเปลี่ยนถ่ายของเหลว น้ำมันหล่อลื่นต่างๆ สำคัญมาก ควรเปลี่ยนถ่ายตามกำหนดเวลา เพื่อเป็นการดูแลรถให้คงสภาพดีอยู่คู่กับเราไปอีกนานๆ

สนใจช้อปผลิตภัณฑ์จากยูคอน ได้ที่