คุณสมบัติของจาระบี ประเภทและวิธีการเลือกใช้

คุณสมบัติของจาระบี ประเภทและวิธีการเลือกใช้

ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับ คุณสมบัติของจาระบี และวิธีการเลือกใช้จาระบีว่าเลือกใช้อย่างไร จาระบี ที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาดมีอยู่หลายประเภท ควรเลือกใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสมกับการใช้งานดังนี้

 

ผลิตภัณฑ์จาระบี

ความอ่อนแข็ง (Consistency)

ความอ่อนหรือแข็งของจาระบี วัดได้โดยการปล่อยให้เครื่องมือรูปกรวยปลายแหลมจมลงในเนื้อจาระบีที่อุณหภูมิ 25°C เป็นเวลา 5 วินาที และวัดความลึกเป็น 1/10 ของมิลลิเมตร ถ้ากรวยจมลงได้ลึกมากก็แสดงว่าจาระบีอ่อนมาก สถาบันจาระบีในสหรัฐฯ (National Lubricating Grease Institute ชื่อย่อ NLGI) ได้กำหนดเบอร์ของจาระบีไว้ดังนี้

ความอ่อนแข็ง

เมื่อเบอร์จาระบีสูงขึ้น จะแสดงว่าจาระบีจะมีสภาพแข็งขึ้น ส่วนระยะจมนั้นแสดงถึงความลึกของกรวยที่จมลงในจาระบี ถ้าระยะจมมาก แดสงว่าจาระบีมีสภาพอ่อนนิ่มกว่าระยะจมน้อย ความอ่อนแข็งของจาระบีขึ้นกับเปอร์เซนต์ของสบู่และความหนืดของน้ำมันพื้นฐาน

จุดหยด (Drop Point)

คือ อุณหภูมิที่จาระบีหมดความคงตัว กลายเป็นของเหลวจนไหลออก ดังนั้นจุดหยด จึงเป็นจุดบ่งบอกถึงอุณหภูมิสูงสุดที่จาระบีทนได้ โดยทั่วไปอุณหภูมิใช้งานจะต่ำกว่าจุดหยด 40° – 65°C การใช้จาระบีในที่อุณหภูมิสูงๆจึงต้องพิจารณาถึงจุดหยดด้วย

สารเพิ่มคุณภาพ (Additives)

“คุณสมบัติของจาระบี”นั้น นอกจากจะมีความอ่อนแข็ง มีจุดหยด และยังมีสารเคมีเพิ่มคุณภาพที่ผสมลงในจาระบี จะมีผลต่อสภาพการใช้งาน ได้แก่ สารรับแรงกดแรงกระแทก (Extreme Pressure หรือ EP) สารป้องกันสนิมและกัดกร่อน เป็นต้น ถ้าจาระบีใช้ในงานพิเศษบางชนิดอาจผสมสารหล่อลื่นอื่นลงไปด้วย เช่น โมลิบดีนั่ม ไดซัลไฟต์ หรือ กราไฟต์

การเลือกใช้จาระบี

จาระบีที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาดมีอยู่หลายประเภท ควรเลือกใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสมกับการใช้งานดังนี้

  • สัมผัสกับน้ำและความชื้นหรือไม่ ถ้าสัมผัสหรือเกี่ยวข้องต้องเลือกใช้จาระบีประเภททนน้ำ ถ้าเลือกใช้ผิดประเภท จาระบีจะถูกดูดความชื้นหรือน้ำ ทำให้เยิ้มหลุดออกจากจุดหล่อลื่นได้
  • อุณหภูมิใช้งานสูงมากน้อยแค่ไหน จุดใช้งานที่อุณหภูมิสูงกว่า80°Cควรเลือกใช้จาระบีประเภททนความร้อน ถ้าเลือกใช้ไม่ถูกต้อง จาระบีจะเยิ้มเหลวไหลทะลักออกมาจากจุดหล่อลื่น
  • ในกรณีที่สัมผัสทั้งน้ำและความร้อน ควรเลือกใช้จาระบีประเภทอเนกประสงค์ (Multipurpose)คุณภาพดี หรือ จาระบีคอมเพล็กซ์(Complex)ซึ่งราคาย่อมแพงกว่าจาระบีประเภททนน้ำหรือความร้อนเพียงอย่างเดียว
  • มีแรงกดแรงกระแทกระหว่างการใช้งาน ถ้ามีมากควรพิจารณาเลือกใช้จาระบีประเภทผสมสารรับแรงกดแรงกระแทก (EP Additives)
  • สภาพแวดล้อมทั่วไป เช่น ถ้ามีฝุ่นละอองและสกปรกหรืออุณหภูมิสูงมาก จะเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ต้องอัดจาระบีบ่อยครั้งขึ้น
  • การเลือกใช้เบอร์จาระบี วิธีการนำจาระบีไปใช้งานซึ่งมีอยู่หลายแบบถ้าเป็นระบบแบบจุดจ่ายกลาง (Centralized System) ที่ใช้ปั๊มป้อนจาระบีไปยังจุดที่ใช้หล่อลื่นต่าง ๆ ก็ควรใช้จาระบีอ่อน หรือ เบอร์0 หรือเบอร์1 ถ้าอัดด้วยมือหรือปืนอัด อาจใช้เบอร์2 หรือเบอร์3 หรือแข็งกว่านี้ ถ้าป้ายหรือทาด้วยมือความอ่อนแข็งไม่สำคัญมากนัก นอกจากนั้นถ้าเป็นพวกกระปุกเฟืองเกียร์ที่ใช้จาระบีหล่อลื่น ก็ควรใช้จาระบีประเภทอ่อน คือเบอร์0 หรือเบอร์1

j3

ประเภทและชนิดของจาระบี

จาระบีที่มีใช้ และมีการผลิตมาใช้ในทุกวันนี้แบ่งออกได้เป็นหลายชนิด และที่รวบรวมมาได้ในที่นี้ประกอบไปด้วย 5 ชนิดหลัก ได้แก่

  • จาระบีแคลเซียม (Calcium Grease)
  • จาระบีโซเดียม (Sodium Grease)
  • จาระบีอะลูมินัม (Aluminum Grease)
  • จาระบีลิเธียม (Lithium Grease)
  • จาระบีชนิดอื่น ๆ (Other Grease)

สนใจช้อปผลิตภัณฑ์จาระบียูคอน ได้ที่